โกโก้กับสมอง : ช่วยกระตุ้นความจำและสมาธิได้จริงไหม
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “โกโก้” กลายเป็นเครื่องดื่มสุขภาพที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ไม่ใช่เพียงเพราะรสชาติที่เข้มข้นและดื่มง่าย แต่ยังเพราะมีการพูดถึง คุณประโยชน์ของโกโก้ที่อาจส่งผลต่อสมอง ความจำ และสมาธิ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้พลังสมองในการเรียนหรือการทำงาน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าโกโก้มีสารอะไรบ้างที่ส่งผลต่อสมอง และมีงานวิจัยใดที่สนับสนุนข้อเท็จจริงเหล่านี้
สารสำคัญในโกโก้ที่เกี่ยวข้องกับสมอง
ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids)
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่มากในโกโก้ โดยเฉพาะโกโก้เข้มข้น
ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ส่งผลต่อการทำงานของสมองด้านความจำและการเรียนรู้
ธีโอโบรมีน (Theobromine)
มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทอ่อน ๆ คล้ายคาเฟอีน แต่ไม่แรงเท่า
ทำให้รู้สึกตื่นตัว มีสมาธิ และลดความง่วง
คาเฟอีน (Caffeine)
แม้มีปริมาณน้อยกว่าในกาแฟ แต่คาเฟอีนในโกโก้ก็ช่วยเพิ่มความตื่นตัวและสมาธิได้
เมื่อทำงานร่วมกับธีโอโบรมีน จะเสริมประสิทธิภาพในการกระตุ้นสมอง
แมกนีเซียม (Magnesium)
เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาทและการส่งสัญญาณในสมอง
มีบทบาทในการลดความเครียดและช่วยให้สมองทำงานอย่างสมดุล
งานวิจัยที่สนับสนุน
การไหลเวียนเลือดในสมอง: งานวิจัยหลายชิ้นพบว่าการบริโภคโกโก้ที่มีฟลาโวนอยด์สูงช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังสมอง โดยเฉพาะบริเวณที่เกี่ยวข้องกับความจำระยะสั้นและการเรียนรู้
การทำงานของสมองในวัยสูงอายุ: มีงานศึกษาที่พบว่าผู้สูงอายุที่ดื่มโกโก้เข้มข้นเป็นประจำ มีคะแนนการทดสอบความจำและความเร็วในการคิดดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ดื่ม
สมาธิและการจดจ่อ: คาเฟอีนและธีโอโบรมีนในโกโก้มีผลกระตุ้นให้สมองตื่นตัว ช่วยเพิ่มความสามารถในการโฟกัสในช่วงเวลาสั้น ๆ
ดื่มโกโก้อย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสมอง
เลือกโกโก้เข้มข้น (Cocoa 70% ขึ้นไป)
ยิ่งมีปริมาณโกโก้สูง ยิ่งมีฟลาโวนอยด์มาก
หลีกเลี่ยงโกโก้ผสมน้ำตาลหรือครีมมากเกินไป
ดื่มในปริมาณพอเหมาะ
วันละ 1 แก้ว (ประมาณ 150–200 มิลลิลิตร) เพียงพอที่จะได้รับประโยชน์โดยไม่ทำให้ร่างกายได้รับคาเฟอีนหรือพลังงานเกินจำเป็น
ไม่เติมน้ำตาลมากเกินไป
หากต้องการรสหวาน แนะนำใช้หญ้าหวานหรือสารให้ความหวานจากธรรมชาติแทน
เวลาที่เหมาะสมในการดื่ม
ช่วงเช้า หรือบ่ายต้น ๆ ช่วยให้สมองตื่นตัว
ไม่ควรดื่มก่อนนอน เพราะอาจทำให้นอนหลับยากขึ้น
ข้อควรระวัง
ผู้ที่แพ้คาเฟอีน หรือมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง ควรดื่มในปริมาณจำกัด
โกโก้สำเร็จรูปในท้องตลาดมักมีน้ำตาลสูง หากดื่มมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักขึ้นและส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนหรือมีปัญหากับระบบย่อยอาหาร ควรสังเกตอาการเมื่อดื่มโกโก้
สรุป
การดื่มโกโก้ โดยเฉพาะโกโก้เข้มข้น มีสารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ทั้งในด้านความจำ สมาธิ และการเรียนรู้ งานวิจัยจำนวนหนึ่งยืนยันถึงประโยชน์เหล่านี้ แต่การดื่มที่ได้ผลดีต้องอยู่ใน ปริมาณที่เหมาะสม และเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ไม่ผสมน้ำตาลมากเกินไป ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาเครื่องดื่มเพื่อช่วยเพิ่มพลังสมอง โกโก้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
